Driven by Dreams

"เพราะธรรมชาติของคนมักชอบสิ่งที่สวยงาม ซึ่งเชื่อมโยงกับ perception และ interpretation ของความเป็นมนุษย์ เราจึงพยายามปรุงแต่งรูปลักษณ์ภายนอกให้ดูดีอยู่เสมอ เพื่อสร้างความประทับใจแรกในหมู่ผู้ที่ได้พบเจอ การปรับแต่งความชอบและความคิดตามธรรมชาติเป็นวิธีที่ใช้เวลายาวนาน ผมมีความตั้งใจที่จะ ลดความเหลื่อมล้ำทาง appearance (หน้าตา รูปร่าง ลักษณะ) เพื่อสร้างโอกาสให้คนหลายๆคน ที่ไม่เคยได้ special treatment ที่ดีจากสังคม โดยทฤษฎีที่ผมตั้งชื่อว่า Provoking social evolution by Aesthetic

แนวคิดนี้ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจ “หมอเบนซ์” หรือ “นายแพทย์ ณัฐภัทร มีนชัยนันท์” นำศาสตร์การแพทย์ที่เน้นการดูแลตัวเองถ่ายทอดผ่าน Alpha Medical Clinic คลินิกสุขภาพและความงามแบบองค์รวมที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับทุกคน จนกลายมาเป็นหมอด้านสุขภาพและความงามที่ไฟแรงสุดๆ ใน พ.ศ. นี้”

อะไรคือแรงขับเคลื่อนที่ทรงพลัง บทสัมภาษณ์จากนี้จะพาทุกคนไปร่วมกันตามหาคำตอบ

ย้อนวัยใสก่อนเป็นหมอ

“ครอบครัวของผมอยู่ในวงการธุรกิจหลากหลาย ทั้งก่อสร้างของคุณพ่อและอื่นๆ ผมจึงมีทางเลือกมากมาย แต่ผมอยากเป็นหมอมากที่สุด ผมมีพรสวรรค์ด้านศิลปะ ซึ่งใครหลายๆ คนชมว่าผมทำได้ดี เพื่อมาต่อยอดเป็นอาชีพและเดินตามฝัน คือการได้นำความรู้ทางการแพทย์ที่เรามี มาสร้างศิลปะและคุณภาพชีวิต” หมอเบนซ์เปิดฉากเล่าย้อนถึงแรงบันดาลใจในการเลือกเรียนวิชาแพทย์

เมื่อเรียนจบ หมอเบนซ์รู้สึกว่าคนเราควรจะรู้จักดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองให้แข็งแรง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปรับการรักษาโรคจากแพทย์ เพราะโดยส่วนตัวหมอเบนซ์มีความเชื่อว่า การรักษาเป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองมากกว่าการดูแลตัวเอง ดังนั้นหมอเบนซ์จึงเทใจให้กับศาสตร์การแพทย์ที่เน้นการดูแลตัวเองทั้งภายในและภายนอกไปควบคู่กัน “ผมมองว่า เวชศาสตร์ความงามทำให้คนเรามีความสุขทางใจ มีความมั่นใจ และสร้างสุขภาพจิตที่ดี ขณะที่เวชศาสตร์ชะลอวัยช่วยให้คนเราหันกลับมาสนใจสุขภาพตัวเองอย่างจริงจัง โดยส่วนตัวผมเป็นคนที่ถ้าจะทำอะไร ต้องทำให้ดีที่สุด ถ้าอยากรู้อะไร ต้องรู้ให้ลึกและแท้จริงที่สุด เพราะผมคิดว่าการรู้ลึก รู้จริง สามารถตอบโจทย์คนไข้ได้ดีที่สุด หลังเรียนจบ ผมจึงมุ่งเน้นไปที่การศึกษาหาความรู้ ไม่ใช่เพื่อการสอบเพียงอย่างเดียว ผมอยากรู้ทุกตัวอักษรในข้อความนั้นๆ และต่อมาผมสอบ American Board ทั้ง 3 ใบ ทั้งภาคทฤษฎี สัมภาษณ์ และปฏิบัติ โดยเริ่มตั้งแต่ Aesthetic Medicine, Anti-aging and Regenerative Medicine และ Cosmetic Laser Surgery และจึงไปต่อ Fellow ด้านเวชศาสตร์ความงามที่ดูไบ เหตุผลที่ต้องเป็นดูไบ เพราะผมต้องการวิธีรักษาฝ้าและความงามอื่นๆกับ Professor แพทย์ระดับโลกที่เก่งมากๆ ซึ่งการศึกษาต่อระดับ Fellow เหมือนการเรียนเจาะลึกจากที่เรียนเฉพาะทางมาแล้ว ก็ยิ่งเฉพาะทางมากขึ้นไปอีก”

หมอเบนซ์เล่าให้ฟังว่า เริ่มต้นเรียนด้าน Aesthetic Medicine ระดับ Diploma ที่รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา และศึกษาในศาสตร์นี้เรื่อยมาตามลำดับ ดังนี้

1. The American Board in Aesthetic Medicine (ABAM), The American Academy of Aesthetic Medicine, Las Vegas, Nevada, USA.
2. The American Board in Anti-Aging and Regenerative Medicine (ABAARM), The American Board of Anti-Aging and Regenerative Medicine, Chicago, Illinois, USA.
3. The American Board in Laser Surgery (ABLS), The American Board of Laser Surgery, Trumbull, Connecticut, USA.
4. Fellow Aesthetic Medicine (FAM), The American Academy of Anti-Aging Medicine (A4M), Dubai, UAE.

“สิ่งที่ได้รับจากการเรียนรู้ คือการได้ทราบถึงความใหม่และความลึกซึ้งของวิธีการใช้ในทุกการรักษา ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ก็มีทั้งที่มีในประเทศไทยและอีกมากมายที่ไม่มีในประเทศไทย การเรียนทำให้ทราบถึงมุมมองด้านความงามและสุขภาพของแพทย์ต่างชาติ ซึ่งเกือบทุกท่านจะให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียด มีการพูดคุยสอบถามปัญหาเป็นระบบ และวางแผนล่วงหน้าให้คนไข้ก่อนการรักษา โดยยึดตามหลักการของแพทย์แผนตะวันตก ซึ่งมีองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (USFDA) รับรอง มีเทคนิคที่ถูกต้อง ทันสมัย รวมถึงผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ตามที่ได้ใช้ก็ก้าวหน้าเกินกว่าในประเทศเรา 5-10 ปี แต่หัวใจหลักคือ มุ่งเน้นการรักษาให้ตรงจุดมากกว่ามุ่งไปที่ตัวผลิตภัณฑ์” หมอเบนซ์ขยายความ

หมอผู้มองการณ์ไกล

“แทนที่จะรอเรียนจบแล้วค่อยเปิดคลินิก ผมคิดล่วงหน้าไว้ตั้งแต่ยังเรียนอยู่เลย โดยตัดสินใจนำที่ดินตรงปากซอยลาดพร้าว 93 ของครอบครัว ซึ่งเดิมเป็นตึกเก่ามารีโนเวตเป็นคลินิกตั้งแต่ 2 ปีก่อน ผมเป็นคนวางคอนเซ็ปตามสไตล์ Futuristic มากกว่าจะให้เป็นแนวโมเดิร์นทั่วไป เน้นมูดแอนด์โทนเป็นสีขาว ดูสบายและสะอาดตา”

หมอเบนซ์ค่อยๆ ถ่ายทอดไอเดียเกี่ยวกับ Alpha Medical Clinic ที่วันนี้เป็นจริงแล้ว ก่อนจะฉายให้เห็นภาพถึงการจัดวางเลย์เอาต์ที่แบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานไว้อย่างลงตัวว่า เริ่มจากชั้นล่างเป็นโซนต้อนรับ ส่วนชั้น 2 เป็นห้องประชุม ชั้น 3 เป็นส่วนของเวชศาสตร์ชะลอวัย และศัลยกรรม ส่วนชั้น 4 และชั้น 5 ยังว่างอยู่ รอที่จะขยายเป็นส่วนของสูตินารีเวช และแผนกรังสีวิทยา

อีกหนึ่งจุดเด่นที่ตั้งใจแฝงไว้ในการออกแบบอย่างแยบยล คือเมื่อทุกคนก้าวเท้าเข้ามาในคลินิกจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน ขณะเดียวกันก็มีความเป็นส่วนตัว เช่นเดียวกับในส่วนของการให้บริการ หมอเบนซ์การันตีเลยว่า แตกต่างและเชื่อว่าไม่เคยมีมาก่อนในตลาดคลินิกความงามในบ้านเรา

“ผมมีหลักคิด ethos ที่ว่า คนเราไม่ควรตัดสินกันด้วยรูปร่างหน้าตา แต่ควรดูกันที่จิตใจ และควรยกย่องคนเก่ง คนมีฝีมือแต่โดยธรรมชาติแล้ว มนุษย์เรามักมีแรงดึงดูดกับสิ่งที่สวยงามมากกว่า จึงไม่แปลกที่จะเกิดสังคม 2 วินาที ซึ่งก็คือสังคมสมัยนี้ที่เราใช้เวลาเพียงนิดเดียวที่จะตัดสินคน หรือจะเกิดความรู้สึกประทับใจกับคน แค่เราเดินผ่านคนอื่นเพียงวินาทีเดียว เราก็ตัดสินคนอื่นแล้วจากรูปลักษณ์ ในโลกปัจจุบัน เราอยู่กันเป็นสังคม มีปฏิสัมพันธ์กัน มี Personal Reflection ต่อกัน ทำให้เกิดการตัดสินกันที่รูปร่างหน้าตา บ่อยครั้งที่คนหน้าตาสวย หล่อ ดูดี จะได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ หรือถูกจัดให้อยู่ในสถานะที่สูงกว่าคนอื่นๆ (higher social hierarchy) ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมชาติที่ใครๆ ก็อยากเข้าใกล้ อยากคุยกับคนสวยคนหล่อ ตรงนี้เราไปเปลี่ยนเขาไม่ได้ แต่เราสามารถลดความแตกต่างทางรูปลักษณ์เพื่อให้ไม่เกิดความต่างมากนัก แล้วไปวัดกันที่ความสามารถแทนได้ ไม่ใช่พ่อแม่หน้าตาดี ลูกเกิดมาหน้าตาดี เลยได้รับสิทธิที่มากกว่า หาเงินง่ายกว่า ในขณะที่คนที่เก่งกว่าไม่ได้รับโอกาสนี้ เพราะหน้าตาไม่ดีเท่า ผมว่าไม่แฟร์ และอยากจะทำให้เกิดความแฟร์ตรงนี้”

หมอเบนซ์บอกว่า ที่รูปลักษณ์มีความสำคัญ เพราะมีความเชื่อมโยงกับธรรมชาติของคน การรับรู้ รวมทั้งการแปลความหมายของคนเรา “เหมือนกับเวลาที่ผมเดินไปเห็นนาฬิกา Patek Philippe แม้จะราคาแพง แต่ก็จะซื้อทั้งที่ก็เป็นแค่เครื่องบอกเวลาเหมือนนาฬิกาอื่นๆ มนุษย์เราเกิดมาเป็นแบบนี้ ชอบของสวยงาม”

แต่การจะมีรูปลักษณ์ที่ดีได้นั้น ต้องเริ่มจากการมีสุขภาพที่ดีก่อน เพราะสองสิ่งนี้มีความเชื่อมโยงกัน Alpha Medical Clinic มีผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพที่รู้จริง ซึ่งจะช่วยในการเสริมสร้างสุขภาพที่ดีไปพร้อมๆ กับรังสรรค์หน้าตาที่ดีได้ด้วยมาตรฐานของการรักษาและการให้บริการตามแบบคลินิกในตะวันตก ที่หมอเบนซ์นำมาปรับใช้ตั้งแต่กระบวนการให้คำปรึกษาไปจนถึงกระบวนการรักษา

“หัวใจหลักของการดูแลคนไข้ของที่นี่ ไม่ใช่แค่เสิร์ฟความสวยให้ลูกค้าตามออร์เดอร์ แต่ลูกค้าทุกคนที่มาใช้บริการต้องได้รับการปรึกษาก่อน เพื่อวางแผนการรักษาแบบรายบุคคล หรือ Alpha Personalised Program โดยเริ่มจากการหาให้เจอก่อนว่าปัญหาที่แท้จริงของคนไข้คืออะไร และวางแผนการรักษาในระยะยาว เพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืน ด้วยการใช้ทั้งเวชศาสตร์ความงาม เวชศาสตร์ชะลอวัย และเลเซอร์เข้ามาบูรณาการ ดังนั้นคนไข้ที่มาหาเรา มั่นใจได้เลยว่าไม่มีการบังคับขายคอร์ส

“ยกตัวอย่างปัญหายอดฮิตอย่างฝ้า มาที่นี่เราไม่ได้เลเซอร์ให้แล้วจบ แต่เราต้องให้คำปรึกษาและคำแนะนำกับลูกค้าเพื่อลดปัญหาหรือไม่ให้กลับมาเป็นอีก อย่างช่วงหน้าร้อน แดดแรง หมอจะไม่แนะนำให้ทำเลเซอร์เลย เพราะทำไปก็ไม่ได้ผล แต่ระหว่างนั้นอาจจะรักษาด้วยแนวทางอื่นๆ เช่น การปรับสมดุลผิวด้วยวิธีอื่นไปก่อน เป็นต้น”

นอกจากการรักษาที่มั่นใจได้ว่าดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเน้นการรักษาด้วยความปลอดภัยสูง และเน้นความสะอาดในระดับสูงสุดแล้ว ยังอุ่นใจด้วยทีมงานและพนักงานที่ได้รับการฝึกอบรมในด้านต่างๆ ที่ได้มาตรฐานระดับสากล สามารถรองรับคนไข้ต่างชาติได้ มีตารางราคาค่าบริการที่เป็นมาตรฐาน และในกรณีที่มีการตรวจเพิ่มเติมที่ต้องส่งผลเลือดไปเข้าห้องแล็บ หมอเบนซ์เสริมความมั่นใจว่า “เราส่งผลไปตรวจยังสถาบันชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ อาทิ EU, USA, AUS ตามหลัก USFDA เป็นเรื่องปกติ คนไข้ไม่ต้องกังวลเลย สิ่งที่สำคัญที่สุด คือเราเชื่อว่าทุกคนมีความสวยและมีเอกลักษณ์ในแบบของตัวเอง เราจึงสร้างสรรค์คำว่า บูรณาการแห่งความงาม หรือ Integrative Beauty ขึ้นมาเป็นหัวใจหลักในการทำงานของเรา”

ธุรกิจความงาม...เวทีนี้ไม่ง่ายเลย

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสมรภูมิธุรกิจความงามในบ้านเราที่มีคลินิกความงามอยู่ทั่วทุกมุมเมือง หมอเบนซ์ยอมรับว่า การเข้ามาอยู่ในธุรกิจที่เป็น Red Ocean นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะค่านิยมในตลาดความงามบ้านเรายังใช้ราคาเป็นปัจจัยหลักในการแข่งขัน ส่วนเรื่องคุณภาพเป็นเรื่องรองลงมา ซ้ำร้ายบางครั้งคนไข้ที่มาใช้บริการยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปัญหาของตัวเองคืออะไร ก็เลือกวิธีการรักษาแล้ว ดังนั้นคอนเซ็ปต์ของ Alpha Medical Clinic จึงพยายามเข้ามาเติมเต็มช่องว่างที่ขาดหายไปด้วยรูปแบบซึ่งไม่เคยมีใครทำมาก่อนในไทย แต่เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ เพราะฉะนั้นความท้าทายในตอนนี้จึงหนีไม่พ้นการทำความเข้าใจกับลูกค้า

“ส่วนตัวผมเชื่อว่าถ้าลูกค้าได้ลองแล้วต้องติดใจ โดยเฉพาะคนที่ชอบการดูแลแบบองค์รวมและกำลังมองหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง”

สำหรับความคาดหวังที่มีต่อ Alpha Medical Clinic ในแง่การเติบโตทางธุรกิจ หมอเบนซ์ตอบว่า ตอนนี้มองข้ามช็อตไปไกลกว่ารายได้ แต่ให้ความสำคัญกับความอิ่มเอมที่ได้รับจากการที่คนไข้มาใช้บริการแล้วประทับใจจนอยากบอกต่อ ดังนั้นเป้าหมายระยะสั้นจากนี้ คือเพิ่มการให้บริการที่ครบวงจรยิ่งขึ้นจนสามารถเทียบเท่าโรงพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญในด้านความงาม ชะลอวัย และฟื้นฟูสุขภาพระดับสากล

“ส่วนเป้าหมายใหญ่ที่ต้องไปให้ถึง ผมวางไว้แล้วว่า ภายใน 10 ปี ผมจะสร้างโรงพยาบาลให้ได้ ถึงตอนนั้นผมอายุ 40 ปีพอดี น่าจะเหมาะทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิ ผมคิดตั้งชื่อโรงพยาบาลไว้แล้วว่า Alpha Hospital ซึ่งไม่เพียงล้อกับความหมายของคำว่า Alpha ซึ่งหมายถึงคนที่พอใจกับความงามในแบบของตัวเอง แต่ยังสอดคล้องกับความเชื่อของเราที่ว่า ทุกคนมีความสวยและมีเอกลักษณ์ในแบบของตัวเอง”

คุยนอกรอบ...ไลฟ์สไตล์ของหมอ

ชวนคุยเรื่องหนักๆ มาพอหอมปากหอมคอ พักมาคุยเรื่องเบาๆ ถึงกิจกรรมวันว่างของหมอหนุ่มรูปหล่อกันบ้าง

“เวลาผมทำอะไรด้วยความชอบและความสนใจ จะสามารถอยู่กับสิ่งนั้นได้นาน และไม่รู้สึกเบื่อ ดังนั้นวันว่างของผม ยังหนีไม่พ้นเรื่องงาน เพราะผมชอบเติมอาหารให้สมองอยู่เสมอ ด้วยการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทั้งจากการอ่านหนังสือวิชาการ ควบคู่ไปกับการเดินทางไปเพิ่มพูนองค์ความรู้ด้านสุขภาพและความงามใหม่ๆระหว่างประเทศ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการไปร่วมงานสัมมนา งานเปิดตัวนวัตกรรมเครื่องมือแพทย์ และการไปแฮนด์ออนด้านสายอาชีพในต่างประเทศ”

ส่วนเวลาว่างที่เหลือ นอกจากการออกกำลังกายที่ทำเป็นกิจวัตรแล้ว ก็ต้องดูแลตัวเองอย่างมีวินัยตามหลักเวชศาสตร์ชะลอวัย เน้นรับประทานผักและผลไม้เป็นประจำ รวมทั้งดูแลสุขภาพของทุกคนในครอบครัวด้วย

“ถ้าวันไหนมีอารมณ์ศิลปิน ผมก็จะเล่นเปียโน จริงๆ ก็เรียนมาตั้งแต่เด็ก แต่หายไปช่วงหนึ่ง เพิ่งกลับมาเล่นใหม่ ก็สนุกดี ถือเป็นการผ่อนคลาย แต่ถ้ามีเวลาว่างมากหน่อย ผมชอบเดินทาง การเดินทางทำให้ผมได้พบเจอประสบการณ์และมุมมองชีวิตใหม่ๆ อยู่เสมอ แต่รูทการเดินทางของผมอาจจะแปลกกว่าคนอื่น ตรงที่ถ้าเดินทางไปแถบยุโรป ไม่ว่าจะไปเมืองไหน ผมจะถือโอกาสแวะไปลอนดอนก่อน เพราะมีน้องๆใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น และยังมีน้องหมาที่ครอบครัวเรารักมากอยู่ที่นั่นด้วย เลยต้องถือโอกาสแวะไปเยี่ยมอยู่บ่อยครั้ง ก่อนเดินทางต่อไปประเทศอื่น”

อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจพอสัมผัสได้ถึงพลังบวกของหมอเบนซ์ ตั้งแต่การเรียนแพทย์ มาจนถึงการเข้าสู่วงการธุรกิจที่ท้าทาย ดังนั้นเลยขอยิงคำถามสุดท้าย ขอเคล็ดลับจากคุณหมอว่ามีเคล็ดลับอย่างไรในการรับมือเมื่อชีวิตต้องเจอปัญหาหรือพบกับอุปสรรค

คำถามนี้หมอเบนซ์ตอบได้ทันทีว่า “ขึ้นชื่อว่าชีวิตล้วนมีปัญหาอยู่แล้ว แต่ในเมื่อมีปัญหาก็ต้องเตรียมรับมืออย่างเป็นขั้นเป็นตอนและวางแผนล่วงหน้า ส่วนมากผมจะวางแผนระยะยาวกับตัวเองอยู่เสมอ และค่อยๆ ปรับแต่งเอา ที่ผ่านมาเลยไม่ค่อยเจอปัญหาใหญ่อะไรมากนัก แต่เรื่องที่มารบกวนจิตใจ มีแน่นอน ซึ่งผมใช้วิธีเข้าวัด ทำบุญ นั่งสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ เพื่อทบทวนปัญหา และรับมือกับสิ่งนั้นๆ”

ความประทับใจต่อบัตรอเมริกัน เอ็กซ์เพรส

“ผมและครอบครัวเป็นสมาชิกบัตรแพลทินัมอเมริกัน เอ็กซ์เพรสมาเป็น 10 ปีแล้ว เฉพาะคุณพ่อผมท่านน่าจะถือบัตรอเมริกัน เอ็กซ์เพรสมาร่วม 30 ปี ส่วนตัวผมประทับใจบัตรอเมริกัน เอ็กซ์เพรส เพราะถ้าเทียบกับบัตรอื่น อเมริกัน เอ็กซ์เพรสเป็นบัตรที่ให้วงเงินเยอะมาก และสามารถขอเพิ่มความสามารถในการจับจ่ายได้สูงในต่างประเทศตามต้องการ ซึ่งถือเป็นการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าได้เป็นอย่างดี แถมยังมีความปลอดภัยสูง หากโดนร้านค้าเอาเปรียบ สามารถส่งเรื่องจัดการได้ทันที

“นอกจากนี้บัตรอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ยังมีอัตราการแลกเปลี่ยนที่เป็นธรรม สามารถใช้จ่ายเมืองนอกโดยไม่ต้องเช็กเรต และยังทำให้รู้สึกเหมือนมีผู้ช่วยอย่างดีในเรื่องไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะต้องการให้ช่วยจองร้านอาหาร จองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก หรือแม้แต่ไพรเวตเจ็ตเดินทางข้ามประเทศในยุโรปก็ช่วยได้ ถือว่าสะดวกมากจริงๆ ครับ ผมเลยใช้มาตลอด จนถึงตอนนี้มาทำธุรกิจ ก็ยังรู้สึกว่าประทับใจ เพราะถ้าเทียบกับธนาคารอื่น อเมริกัน เอ็กซ์เพรสก็ให้เรตผมดีกว่าที่อื่นเช่นกัน

“สุดท้ายนี้ ผมและผู้บริหาร Alpha Medical Clinic ยินดีต้อนรับสมาชิกบัตรอเมริกัน เอ็กซ์เพรส โดยสำหรับสมาชิกบัตรอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ทาง Alpha Medical Clinic ขอมอบส่วนลด 15% สำหรับการบริการทุกประเภทครับ”

นายแพทย์ ณัฐภัทร มีนชัยนันท์